การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
1. ความหมายของทรัพยากรธรรมชาติ
ทรัพยากรธรรมชาติ (natural resources) หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีประโยชน์
สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้ หรือมนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น บรรยากาศ
ดิน น้ำ ป่าไม้ ทุ่งหญ้า สัตว์ป่า แร่ธาตุ พลังงาน รวมทั้งกำลังงานจากมนุษย์ด้วย
2. ความหมายของการอนุรักษ์
การอนุรักษ์ (conservation) หมายถึง การรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาดให้เป็นประโยชน์ต่อ
มหาชนมากที่สุด และใช้ได้เป็นเวลายาวนานที่สุด ทั้งนี้ต้องให้สูญเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์น้อยที่
สุด และจะต้องกระจายการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรโดยทั่วถึงกันด้วย ฉะนั้นการอนุรักษ์จึงไม่ได้หมายถึง
การเก็บรักษาทรัพยากรไว้เฉย ๆ แต่ต้องนำทรัพยากรมาใช้ประโยชน์ให้ถูกต้องตามกาละเทศะ (time and
space) อีกด้วย
3. ความหมายของการสูญเปล่า
การสูญเปล่า (waste) หมายถึง การถูกทำลายไปโดยไม่จำเป็น หรือหมายถึงการสูญไปโดยไม่ได้
รับประโยชน์ที่คุ้มค่าแต่อย่างใด เช่น การพังทลายของดิน ไฟไหม้ และน้ำท่วม เป็นต้น การสูญเปล่านี้อาจ
เกิดขึ้นได้ทั้งในการผลิต และการบริโภค การสูญเปล่านี้แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน คือ
1) การสูญเปล่าแบบเบ็ดเสร็จ (absolute waste) หมายถึงทรัพยากรถูกทำลายไปโดยไม่ได้รับ
ผลตอบแทนแต่อย่างใด ตัวอย่างเช่น การพังทลายของดินเนื่องมาจากน้ำหรือลม ดินที่สูญ
เสียในลักษณะนี้จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
2) การสูญเปล่าแบบซ้ำเติมหรือสมทบ (waste plus) หมายถึง การสูญเสียทรัพยากรอย่างอื่น
เพิ่มขึ้นมาอีกในขณะที่ทรัพยากรอย่างหนึ่งกำลังถูกทำลาย เช่น ไฟป่า นอกจากเผาไหม้ทำลายต้นไม้โดยตรงแล้วยังเป็นการทำลายที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และทำลายคุณสมบัติ
ของดินอีกด้วย
3) การสูญเปล่าแบบไม่ได้สัดส่วน (relative waste) หมายถึงการใช้ทรัพยากรเพื่อวัตถุ
ประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยไม่ได้สัดส่วนคุ้มค่า เช่น ใช้ทองแดงมุงหลังคาบ้านชั่วคราว
และการใช้ไม้สักเป็นไม้แบบก่อสร้าง เป็นต้น
4) การสูญเปล่าแบบจงใจ (organized waste) หมายถึง การสูญเปล่าเนื่องมาจากการทำลาย
ทรัพยากรอันมีค่าเพื่อรักษาระดับราคา เช่น การเอาน้ำตาลไปทิ้งทะเล เพื่อตรึงราคาเป็นต้น
หรือเล็งผลเลิศว่าจะสามารถสร้างสิ่งอื่นที่ทดแทนทรัพยากรธรรมชาตินั้นได้ จึงใช้ทรัพยากร
นั้นอย่างฟุ่มเฟือย เช่นนี้เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการสูญเปล่านั้นเป็นการยาก ในแง่การผลิตตามหลัก
เศรษฐศาสตร์ รวมทั้งหลักการในทางนิเวศวิทยา ถือว่าทุกครั้งที่ทรัพยากรมีการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนสภาพ
จะต้องเกิดการสูญเปล่าไม่มากก็น้อยทุกครั้งไป การอนุรักษ์จึงอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรจึงจะให้เกิดการสูญ
เปล่าน้อยที่สุด
4. การจำแนกประเภททรัพยากรธรรมชาติ
ดังได้กล่าวมาแล้วว่า ทรัพยากรธรรมชาติได้แก่สิ่งที่เกิดขึ้นหรือมีอยู่ตามธรรมชาติ และสิ่งต่าง ๆ
เหล่านั้นสามารถที่จะนำมาใช้หรืออำนวยประโยชน์แก่มนุษย์ได้ เช่น ดิน น้ำ ป่าไม้ ทุ่งหญ้า สัตว์ป่า แร่ธาตุ
พลังงาน ตลอดจนกำลังงานของมนุษย์
ในทางเศรษฐศาสตร์ปัจจัย 3 อย่างที่ถือว่าเป็นปัจจัยในการผลิต ได้แก่ ที่ดิน แรงงาน และทุน ล้วน
มาจากทรัพยากรต่าง ๆ ดังกล่าวแทบทั้งสิ้น เช่น ที่ดิน เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการผลิต โดยมีทรัพยากร
มนุษย์ในแง่ของกำลังงานเป็นแรงงาน กับอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ เป็นต้นทุนในการผลิต จากการผลิตนี้เอง
ป่าไม้จึงกลายมาเป็นบ้าน เป็นเชื้อเพลิง ดินสอ และเครื่องใช้ต่าง ๆ หญ้าใช้เป็นอาหารสัตว์แล้วเปลี่ยนไป
เป็นเนื้อสัตว์ และกลายเป็นกำลังงานมนุษย์ในที่สุด ส่วนน้ำก็เป็นประโยชน์นานับประการ เช่น ใช้ดื่ม ใช้ทำ
อาหาร ชำระล้าง และใช้เพื่อการขนส่ง สัตว์ป่าใช้เป็นอาหารและใช้หนังทำเครื่องนุ่งห่ม แร่บางอย่างใช้เป็น
เชื้อเพลิง ใช้ทำปุ๋ย และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ จะเห็นว่าปัจจัยสี่ ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย
และยารักษาโรค ต่างได้มาจากทรัพยากรธรรมชาติทั้งสิ้น เพื่อประโยชน์ในการจัดการและใช้ทรัพยากร
อย่างมีประสิทธิภาพ ทรัพยากรดังกล่าวข้างต้นอาจจำแนกได้เป็น 3 ประเภท ใหญ่ ๆ